มะเร็งปากมดลูก
เป็นโรคที่พบมากที่สุดเป็นอับดับ 2 ในผู้หญิงไทยรองจากโรคมะเร็งเต้านม
โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ปีละกว่า 7,000 ราย และมีผู้เสียมากกว่า 2,000 รายต่อปี ทั้งๆที่เป็นโรคที่ป้องกันได้ง่ายๆ โดยการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV วัคซีน) ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบ 4 และ 9 สายพันธุ์
โรคมะเร็งชนิดนี้เกิดจากการติดเชื้อที่มีชื่อว่า HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่งสามารถติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ ความร้ายกาจของเชื้อ HPV ก็คือมันสามารถเข้าไปอยู่ในร่างกายของเราโดยไม่แสดงอาการใดๆ และจะแสดงอาการก็ต่อเมื่อมีอาการค่อนข้างรุนแรงแล้ว เชื้อ HPV อาจใช้เวลาถึง 10 ในการก่อตัวเป็นมะเร็งปากมดลูก
สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูก ?
เชื้อ HPV สายพันธุ์ 16, 18 เป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกว่า 70% ซึ่งติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์
การมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้ปากมดลูกมีแผลหรือรอยถลอก จึงเสมือนการเปิดประตูให้เชื้อไวรัสเอชพีวีผ่านเข้าไปในเซลล์ที่บุผนังมดลูกได้ ซึ่งโดยปกติแล้วเซลล์ที่บุผนังปากมดลูกจะเรียงตัวกันอย่างดีและแน่นหนา
ผู้หญิที่มีเพศสัมพันธ์แล้วมีโอกาสติดเชื้อไวรัส HPV ได้มากถึง 50% – 80% แต่ทั้งนี้ก็มีการพบว่ากว่า 90% ที่เชื้อโรคนี้จะหายไปได้เอง
โรคมะเร็งปากมดลูก แบ่งเป็นกี่ระยะ ?
- ระยะที่ 1 : มะเร็งอยู่ที่ตัวปากมดลูกเป็นหลัก
- ระยะที่ 2 : เซลล์ร้ายลุกลามออกไปยังช่องคลอดและด้านข้างของปากมดลูก
- ระยะที่ 3 : เริ่มมีการแพร่ขยายไปถึงช่องคลอดและปากช่องคลอด ชิดผนังอุ้งเชิงกรานและท่อไต
- ระยะที่ 4 : ลุกลามไปในกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ใหญ่ และอวัยวะใกล้เคียงเช่น ตับ ปอด
อาการที่พบในระยะลุกลาม เช่น มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ ประจำเดือนมานานกว่าปกติ ตกขาวมีกลิ่น ปวดท้องน้อย ปัสสาวะเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด
ใครมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก ?
- ท่านที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อยๆ
- มีคู่นอนหลายคน หรือกับผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน
- สูบบุหรี่
- มีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เอดส์ ซิฟิลิส หนองใน เริม
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ
- ผู้ที่ไม่เคยตรวจหรือฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
วิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูก
- ฉีดวันซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV วัคซีน)
- มีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดได้ แต่ประสิทธิภาพอาจน้อยกว่าผู้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และตรวจ HPV DNA
- เป็นการตรวจภายใน โดยคุณหมอจะใช้สอดเครื่องมือเข้าไปที่ปากช่องคลอดแล้วใช้อุปกรณ์ป้ายเซลล์ออกไปเพื่อส่งตรวจ
- ตรวจโดยใช้เทคโนโลยี Liquid-Based ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าวิธีดั่งเดิมที่เรียกว่า Pap Smears
- ใช้เวลาตรวจประมาณ 15 นาที
- คนไข้จะรู้สึกหน่วงๆ แต่ไม่เจ็บ
- แนะนำควรตรวจเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนตรวจมะเร็งปากมดลูก
- มาตรวจในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน
- ห้ามใช้ยาเหน็บหรือยาสอดช่องคลอด ก่อนตรวจ 2 วัน หรือ 48 ชั่วโมง
- งดมีเพศสัมพันธ์ ก่อนตรวจ 2 วัน หรือ 48 ชั่วโมง
เคยฉีดวัคซีน HPV แล้วจำเป็นต้องตรวจไหม ?
แพทย์ยังคงแนะนำให้ตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัคซีนไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ครบทุกสายพันธุ์ ถ้าตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกเร็วก็สามารถรักษาให้หายได้
ตรวจมะเร็งปากมดลูกราคาเท่าไร ?
ตรวจภายใน & มะเร็งปากมดลูก | ตรวจภายใน & มะเร็งปากมดลูก & อัลตราซาวด์ | ตรวจภายใน & มะเร็งปากมดลูก (HPV DNA) & อัลตราซาวด์ | |
---|---|---|---|
ราคา | 1,400.- | 2,300.- | 2,500.- |
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: Bumrungrad Hospital